Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

เกษียณได้อะไร


198427_441178565934570_138846739_n

 

เกษียณก่อนกำหนด(เออรี่รีไทม์)

เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ  แต่คนที่เกษียณแล้ว ส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้คำตอบกับผู้ที่อยากเกษียณ  ผมเกษียณไปแล้ว ก็จะนำผลการปฏิบัติมาแจ้งผู้จะอยากเกษียณ จะได้เข้าใจ และเรียนรู้ว่า เกษียณแล้วเขาได้อะไรบ้าง

ผมนายซุนย้ง แซ่เตียว เกิดเมื่อ 21 กันยายน 2499 บรรจุเมื่อ 21 พฤษภาคม 2519 เกษียณเมื่อ 30 กันยายน 2555 เงินเดือนเต็มขั้น อาจารย์ 2ระดับ7 มาแล้วประมาณ4ปี เงินเดือน37,380บาท

ตามปกติผมจะเกษียณ 2559 แต่ออกก่อน4ปี

ผมได้รับเงินต่างๆ ดังนี้

1.จ่ายเงินมาตรการพัฒนาและบริหารกำลังคนฯ(เงินจ้างออก) เงินเดือน37,380บาท+เงินประจำตำแหน่ง3500บาท*(8เท่า+อายุราชการที่เหลือ4)คือ12เท่าได้เท่ากับ495,960บาท(กรมบัญชีกลางแจ้งมาทางจดหมายถึงบ้าน)

2.การสั่งจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ กบข.(รายการนี้ตามปกติจะได้รับ400,000บาท เขาจะแบ่งงานเป็น2งวดคืองวดแรกจะได้รับ200,000บาทและจะได้รับอีกครั้งตอนอายุ65ปี)

3.การสั่งจ่ายบำนาญของคนมี กบข.คิดจากเอาเงิน60เดือนสุดท้ายรวมกันแล้วหารด้วย60ไม่คิดรวมเงินประจำตำแหน่ง*อายุราชการ/55(ดูรายละเอียดวิธีคิดอีกที ทราบว่าอายุราชการให้35ปี(จริงๆผม36ปี)และไม่เกินร้อยละ70ประมาณนี้ ผมได้24,927.23บาทต่อเดือน

4.เงิน กบข.โทรถามที่กบข.เขาให้800,000บาท

การดำเนินการขั้นตอนและเอกสารหลังเกษียณมีดังนี้

1.สำนักงานเขต เขาจะนัดไปกรอกแบบฟอร์ม คือกรอกแบบ5300 เอกสารที่ต้องเตรียม ก็มีคำสั่งเกษียณ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาบัตรประจำตัว สำเนาธนาคาร แบบ กพ.7 การเขียนครั้งแรก เขาจะให้เรากรอกเกี่ยวกับการขอรับเงินบำนาญ และรับเงินดำรงชีพ  แล้วก็รอการตอบจากกรมบัญชีกลาง

2.เมื่อกรมบัญชีกลางตอบมา เขาจะแจ้ง2รายการคือ แจ้งการได้รับเงินเดือน และแจ้งการได้รับเงินดำรงชีพ เราก็เอาเอกสารนี้ไปแจ้งที่การเงินเขต เขาก็จะให้กรอก การขอรับเงิน กบข.โดยให้สำเนาคำสั่งเกษียณและสำเนาสมุดฝากธนาคาร

3.ต่อมาเราก็จะได้รับจดหมายจากกรมบัญชีกลางฉบับที่2 แจ้งให้ทราบว่า จะได้รับเงินที่เข้ามาตรการการพัฒนาและบริหารกำลังคน(จ้างเออรี่) ไม่ต้องทำอะไร รอเงินเข้าบัญชีอย่างเดียว

4.ไม่ต้องทำอะไร รอเงิน กบข.โอนเข้าบัญชี

5.ครบ65ปี รอเงินเข้าบัญชี บำเหน็จดำรงชีพรอบสุดท้าย ถ้าตายก่อนก็คงตกทอดให้ลูกหลาน

หมายเหตุ

ท่านที่เข้าโครงการเออรี่ เงินไม่ไหลวนตามปกติ ระวังมีปัญหากับรายการหักต่างๆ เดี๋ยวเขาจะไม่ปันผลออมทรัพย์ และรายการหักอื่นๆ ดำเนินการดังนี้

1.ไปแจ้งสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเอาไว้ พร้อมส่งเอกสาร ว่าเกษียณ ของดหักไว้ก่อน3เดือน

2.รายการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต่างๆ จะจ่ายล่วงหน้าหรือขอพักก็ไปแจ้งเขาให้ทราบ

3.รายการ ชพค.ไปแจ้งให้เขาทราบ อาจจะช้านิด2เดือนคงไม่เป็นไร

4.รายการยืมเงินล้านที่ธนาคารออมสิน  ผมใช้วิธี เอาเงินตัวเองเข้าบัญชีไว้ให้เพียงพอในช่วงที่เงินเดือนเราไม่ออก3เดือน ให้ธนาคารเขาหักจากบัญชีเงินฝากของเราได้เลย

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นวิทยาทานให้กับผู้อยากรู้  ถือว่าทำบุญให้ผู้อยากเกษียณ

ถามว่าเกษียณแล้วมีความสุขหรือไม่

ตอบ สุขแน่ๆ คือสุขใจ ไม่ต้องวุ่นวายรายวัน

ที่สำคัญ การเงินต้องให้นิ่ง อย่าบังอาจเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวัยเกษียณ เงินมันเข้ามาได้ มันก็ออกได้

ด้วยความปรารถนาดี จากครูซุนย้ง แซ่เตียว ครับ

9ธันวาคม 2555


วันที่ 11 ตุลาคม 2555 ปั่นจักรยาน จากศรีสะเกษ ไปราษีไศล ออกไปทาง อำเภอโนนทราย ไป อำเภอสุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด

รูปที่เห็นเกี่ยวกับถนนหน้าบ้านตัวเองที่ยางชุมใหญ่

สิ่งที่เห็นข้างถนน คือความเจริญ  การพัฒนาอาชีพของผู้คน

ที่อุทุมพรพิสัย เห็นขายหอม ขายจักสาน อาหารข้างถนน

ที่ราษีไศล เห็นอุตสาหกรรม ทำกันสาดหน้าบ้าน และร่มใหญ่ขายของ

ออกไปที่อำเภอโพนทราย เห็นการหล่ออิฐ การแกะสลักไม้

เข้าอำเภอสุวรรณภูมิ ดูบ้านเมืองเขาเจริญขึ้นมาก มีการทำมาค้าขาย มีตึกรามบ้านช่อง มีรีสร์อท มากมาย ราคาก็ห้องละ400 บาท

การประกาศขายบ้าน ขายที่ ตลอดทั้ง มีการเกี่ยวข้าวด้วย

ดูบ้านเมืองทุกถิ่นทั่วไทย กำลังพัฒนา ทุกหมู่บ้านมีรถมากมาย มีร้านเน็ต และเด็กๆ เล่นเกม

บ้านเมืองไทย ทั่วอีสาน มีลักษณะคล้ายๆกัน ครับ

จากการปั่น ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาปั่น 10 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็เหนื่อยเอาการอยู่ครับ

หาที่พักที่คิดว่า น่าจะปลอดภัย ได้โรงแรมเล็กๆ ชื่อดาวเรืองที่สุวรรณภูมิห้องพัดลม 200บาท

หลังเกษียณ


         

             หลังเกษียณ หลายคนคงตกใจ บางทีใช้คำว่า ถอดความเป็นครู ก็อาจจะไม่สะบายใจนัก ขอใช้คำให้สะบายใจว่า  เกษียณออกไปรอเพื่อนสักสองสามปี ก็ดูจะไม่ได้คิดอะไรมาก และข้อเท็จจริงก็เป็นเช่นนั้นนั่นเอง  ตอนนี้ก็อายุไกล้60 เพื่อนหลายๆคน ก็พากันขึ้นสวรรค์ไปบ้าง  บางคนก็เริ่มไปเยี่ยมคุณหมอเป็นระยะ บางคนก็ทำงานอย่างเข้มแข็ง

ความคิด กับความวิตกกังวล กับการเตรียมการ และความมั่นใจในชีวิตหลังเกษียณที่มีอยู่ คนรอบข้าง ลูก ภรรยา พี่ น้อง เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา ญาติผู้ใหญ่ ทุกคนก็ปรารถนาดี อำนวยอวยพร ให้สุขภาพแข็งแรง ให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ก็ต้องขอขอบพระคุณ และคำอวยพรใดที่ท่านส่งมา ก็ให้สะท้อนกลับเป็นทวีคูณ สู่ท่าน ญาติมิตรและครอบครัวเช่นกัน

วัยที่ผ่านมา กับความคิดที่คิดใหม่อยู่เสมอในความเป็นปัจจุบัน ครั้งก่อนๆ เคยคิดว่า คนเราต้องทำงาน แล้วหลังเกษียณต้องมีงานทำ จะทำอะไรดี ก็เคยคิดเตรียมการไว้หลายอย่าง เช่น เคยเรียนทางศิลปะ เรื่อง วาด ปั้น พิมพ์ ก็พอได้ เป็นช่างไม้ ช่างปูน ช่างเครื่องยนต์ ช่างอิเลคทรอนิคส์ ก็พอได้  เรื่องเป็นนักเขียน นักอ่าน แต่งเรื่องราว รวบรวมประวัติศาสตร์ เขียนตำรา ในประสบการณ์ชีวิต งานช่าง งานศิลป์ งานเขียนเรียงความ งานวิชาการ ก็พอได้ และเคยไปเรียนกฏหมาย ดูไปดูมาไม่เข้ากับธรรมชาติของตน ก็เลิกเรียนไป ส่วนเส้นทางธรรม ก็สนใจมากอยู่ แต่เราก็ต้องมีหน้าที่ต้องทำคือความเป็นสามี ความเป็นพ่อ ที่ต้องรักษาต่อไป

มาถึงอายุ ณ วันนี้ หลายคนก็จะมีความคิดคล้ายกัน มองอดีตก็คือสิ่งที่ผ่านมา มองปัจจุบันคือความว่างเปล่า  มองอนาคต ก็เตรียมเข้าวัดหรือไปสวรรค์ การจะวิ่งหาทรัพย์คงไม่ใช่้ เพราะจะมีมาก มีน้อยก็เอาไปไม่ได้ ส่วนคนเกิดทีหลัง เราจะให้มากหรือให้น้อย หรือไม่ให้ ก็มีค่าเท่าเดิม เพราะถ้าเขารู้จักหา ประหยัดแม้ให้น้อยก็เหลือ  แต่ถ้าหากเขาไม่รู้การหา รู้แต่การใช้ ถึงจะมีร้อยล้าน ก็ใช้หมด ไม่มีเหลือ  ผมจึง คิดว่า ผมต้องเดินไปสู่ความว่างเปล่า ปล่อยวาง แล้วผมก็จะไปสู่นิพาน ตายก่อนตาย จึงจะไร้ทุกข์

แล้วหากผมไร้ทุกข์ ความปกติสุขก็จะเกิดขึ้น สุขภาพกายใจดี ก็จะตามมา  แล้วผมก็จะมีชีวิตอันยืนยาว ลูกเมีย คนรอบข้างก็จะสุขใจไปด้วย  ดีกว่าผมไปสาระวนกับเงิน กับงาน กับหลายๆเรื่อง มันจะวุ่นวาย โรคก็จะตามมา การตายก็เร็วขึ้น  แล้วคนรอบข้างก็จะทุกข์เป็นทวีคูณ

ตั้งใจไว้ว่า จะหาความสุขใส่ตัวที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น  เช่นถีบจักรยาน สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี ค่ำไหนก็นอนนั่น ไปในถิ่น ที่ดี ปลอดภัย กินดี อยู่ดี นอนหลับ ได้เวลาก็ไปหาหมอตามนัด เยี่ยมบ้าน ลูก เมีย ญาติ เพื่อน ตามที่ได้รับการเชื้อเชิญ และตระหนักว่าจะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร และจะไม่รับงานที่ผูกพัน ไม่มีพันธต่อเนื่อง ไม่แสวงหาเงิน  ไม่ใช่เห็นแก่ตัว แต่เป็นวิธีรักษาสุขภาพให้แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน จะได้อายุยืนนาน

วันนี้วันที่ 27 กันยายน 2555 กำลังสรุปว่า งานเกษียณได้รับการเลี้ยงจากทางโรงเรียน เพื่อนครูหลายส่วน เริ่มจากร่วมงานเกษียณชมรมผู้บริหารเครือข่ายอนุบาลประจำจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครพนม  ตามด้วย งานเกษียณชมรมผู้บริหารเครือข่ายอนุบาลประจำจังหวัดแห่งประเทศไทยที่จังหวัดที่พัทยา ตามด้วย ห้องการเงินจัดที่ห้องอาหารกุ้งเผากาฬสินธ์ ตามด้วยคณะครูสายสองภาษาที่ร้านอาหารบ้านสวน แล้วฝ่ายวิชาการโรงเรียนจัดที่อารยาโขงเจียมรีเวอร์ไซท์ ตามด้วย ฝ่ายภาษาต่างประเทศจัดที่ห้องอาหารสีเขียว และสายชั้นอนุบาลที่โรงแรมศรีลำดวน และสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ตามด้วยสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ที่ร้าน ปลาจุ่ม วันวานก็ กลุ่มเมือง2จัดที่โรงเรียนวัดพระโต วันเสาร์ที่ 29 เป็นรายการของโรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษที่โรงเรียน และวันที่ 1ตุลาคม 2555 เป็นรายการของชมรมข้าราชการเกษียณ  ต้องขอบพระคุณ ขอบพระคุณ และขอบพระคุณ  ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านนับถือ ดลบันดาลให้ท่าน ครอบครัว ญาติมิตร มีแต่ความสุึข ความเจริญ ร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป

ประมาณ1สัปดาห์จะเป็นการจัดทำเอกสารการเกษียณ กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานกคศ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ  คาดว่า หลังวันที่ 8 ตุลาคม2555จึงจะมีเวลาฟรีๆ สำหรับตนเอง  แล้ว จะพยายามบันทึก พร้อมโพสภาพ ให้ผู้ติดตามได้ทราบว่า  จากครูจรจัด มาเป็นคนจรจัด อยู่แห่งหนตำบลใดในโลกใบนี้


a1 เอกสารหมายเลข 1
a2 เอกสารหมายเลข 2
a3 เอกสารหมายเลข 3

ค่ายจีน

เข้าค่ายภาษาจีนที่เมืองจีน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขต 28 ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ การรับสมัครเข้าร่วมโครงการค่ายภาษาจีนภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
โดยได้แนบเอกสาร ค่ายภาษาจีนภาคฤดูร้อน  ใบสมัครเข้าร่วมโครงการ และหนังสือแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัด
โดยมี หลักสูตร 4 สัปดาห์ 28 มีค 55-25 เมษายน 55ที่ ซื่อชวน นอร์มอล มี2โปรแกรม ราคา 35,000บาทและ 39,000บาท
หลักสูตร 6 สัปดาห์ 19มีนาคม55-30เมษายน 55  เรียนที่เดียวกัน ราคา 49,000บาท
รับสมัคร 27 พฤศจิกายน 54-29 ธันวาคม 54 ที่ โรงเรียนของท่าน

สงสัยอีเมล์มาที่ soonyongsatio2000@yahoo.com  tell:0862585859


ขอชื่นชมยินดีกับกลุ่ม นักเรียนเฉลิมพระเกียรติฯศรีสะเกษ ที่ร่วมกันแสดงออก ขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือคนน้ำท่วม

pinyin windows 7


pinyin

แก้ปัญหาพินอิน กับวินโดว์ 7

 การแก้ปัญหา การใส่พินอินในวินโดว์ 7

หาคำอธิบายการแก้ปัญหา เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ลง วินโดว์ 7 และเมื่อ ลงโปรแกรม เวิร์ด 2007 ก็จะทำให้คนที่กำลังใช้ โปรแกรมใหม่ ต้องปวดหัวกับระบบปฎิบัติการใหม่ และมาปวดหัวอีกครั้งเมื่อ ใช้โปรแกรม เวิร์ด 2007 ที่หาตัวพินอินไม่เจอ
หลายคนก็สืบค้นจากเว็บไซท์จีน และดาวโหลดจิปาถะมาใส่ ก่อนจะใส่ได้ ก็ต้องดาวโหลดอะไรเสียมากมายมาแถมใสเครื่องคอมพิวเตอร์เรา

        ผมเจอปัญหาและหาข้อมูล เซทตั้งหลายที่ สุดท้ายก็ไปเจอรเว็บไซท์ฝรั่ง  แล้วก็ไปดาวโหลดจากเว็บไซท์จีน มาเซทอัฟ จึงสำเร็จ

จึงขอเสนอวิธีการขั้นตอนแก้ไขปัญหาดังนี้ 

  1. คลิกที่ตรงนี้เพื่อดาวโหลดโปรแกรมครับ  
  2. เมื่อดาวโหลดออกมาจะได้ดังภาพ   

ดับเบิลคลิก ไฟล์ที่ดาวโหลดมา

คลิกเครื่องหมายถูก ภาพแรก แล้วคลิกต่อไป

ลำดับถัดไป

ภาพสุดท้าย เอาเครื่องหมายถูกออก  และ จบ หรือ ฟินิส

จากที่พิมพ์พินอินมีปัญหาดังภาพ


ก็จะหายไปและมีภาพที่ปรากฎดังนี้


ความทุกข์ก็จะหายไป แล้วความสุขก็จะกลับมาอีกครั้งครับ

ด้วยความปรารถนาดี

จากครูซุนย้ง  แซ่เตียว

ประวัตินายซุนย้ง แซ่เตียว

เอกสารลาเกษียณ

อยากเปิดสอนภาษาจีน


การเปิดสอนภาษาจีนในโรงเรียน
บางทีก็พูดง่ายแต่ทำยาก
แต่สำหรับผู้บริหารที่เก่งๆ เรื่องยากๆ ก็ทำได้ง่ายๆ เขาเรียกว่าคนมีบารมี
อย่างแรกต้องมองหาเงินก่อน เมื่อมีเงินอะไรๆก็ทำได้ง่ายๆ เงินนั้นมีไว้แล้วยัง
หรือเงินในอากาศ เงินในกระเป๋าผู้ปกครอง หรือเงินอยู่ในส่วนท้องถิ่น หรือส่วนกลาง
คนมีเงินแต่ก็ทำไม่ได้ มันเพราะอะไร อาจจะเป็นเรื่องของคน
คนประสานงาน การสื่อสารแบบสมัยใหม่ ภาษาและอินเตอร์เน็ต อีเมล์ โทร การทำพาสปอร์ต วีซ่า การเข้าออกระหว่างประเทศ และค่าใช้จ่าย
ผู้เรียน เมื่อทุกอย่างมีพร้อม แต่ผู้เรียน ไม่เร้าใจ ครูป้อน แต่เด็กไม่รับ ผู้ปกครองไม่ร่วมมือ ก็ไปไม่รอด แล้วจะมีวิธีอย่างไรที่จะสื่อสารให้ผู้เรียน อยากเรียน ผู้ปกครองสนับสนุน
แล้วถ้าทุกอย่างพร้อม จะเดินหน้าอย่างไร
อย่างที่1เปิดสอนแบบง่ายๆ ง่ายที่สุดคือ เมื่อมีครูในโรงเรียนสามารถสอนภาษาจีนได้(ไม่ว่าจะย้ายเข้ามาหรือครูในโรงเรียนเคยเรียนจีนมาแล้ว หรือส่งครูไปอบรมภาษาจีนมาแล้ว) ตั้งเป็นชมรมเปิดสอนได้เลย เมื่อพร้อมจะเปิดเป็นวิชาเพิ่มเติมก็หาหลักสูตรสถานศึกษา ติดตามโรงเรียนเครือข่ายภายในเขตของเรา
อย่างที่2จ้างคนที่มีความรู้ความสามารถในท้องถิ่น เช่นจีนขายของในตลาด ขอให้เขามาสอนอาทิตย์ละ 2-3ชั่วโมง แน่ะนำการใช้สื่อ และกำกับการเป็นครู การเป็นตัวอย่าง การสอน การวัดผลประเมินผล ก็พอผ่านไปได้
อย่างที่ 3 ติดต่อโรงเรียนเครือข่าย ที่ติดต่อกับส่วนราชการไทยกับจีนผู้เผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมจีนโดยตรง จะได้ครูอาสาสมัครชาวจีน เตรียมเงินเดือนไว้ เดือนละ 15000บาท พร้อมค่าพาสปอร์ต วีซ่า ที่พัก
อย่างที่ 4 ติดต่อไปที่นักศึกษา หรือวิทยาลัยทางจีน ขอเข้ามา ให้ค่าเครื่องบิน พาสปอร์ต วีซ่า อาหารที่พักและเงินเดือน ทำเอง หรือทำข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยปลายทาง เรียกว่า เอ็ม โอ ยู
อย่างที่5 สุดสวยด้วยของดีราคาประหยัดคือ
รับย้ายครูไทย(แบบสมองไหล)คนที่เคยสอนภาษาจีนในโรงเรียนต่างๆ ผ่านการอบรมจากต่างประเทศมาแล้ว ปัจจุบันมีประมาณ 1000คน(แย่งคน เจ้าของเขาคงไม่อยากให้ เจ้าตัวก็คงลำบากใจ(ยาก))
น้องหนูครูอัตราจ้าง เคยอบรมผ่านภายในประเทศ ต่างประเทศ พร้อมย้าย ถ้าได้ราคาดี เพราะหนูยังไม่เป็นราชการ(ประมาณ20คน)ถ้าให้ราคาเท่าครูจีนไปทันที รับรองเก่งงานมีประสบการณ์ตรง(โทร 0862585859)
ปี2545 เป็นต้นไป จะเริ่มมีการเปิดสอนภาษาจีนมากขึ้น รองรับการเปลี่ยนแปลง เรื่องอาเซี่ยน แล้วถ้าท่านไม่เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ปัญหาจะตามมามากมาย หลายโรงเรียนเตรียมอะไรๆ พร้อมหมด รอรับครูจีนมาครึ่งปียังหาไม่ได้ นี่เรื่องจริงครับ ที่ประสบมาทุกปี แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังมีปัญหากันอย่างมากมายแทบทุกโรงเรียนครับ


การเรียนการสอนที่เน้นบูรณาการ

ในทุกปีจะมีการจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม  อันเป็นวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนารถ ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าทางราชการหรือโรงเรียนก็จัดให้มีกิจกรรมถวายพระพร ตลอดทั้งจัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนได้ไหว้แม่เป็นกิจกรรมทุกปี มีกิจกรรมให้เด็กร้องเพลงค่าน้ำนม ให้เกิดจิตสำนึกกตัญญู เคารพและเชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ และทางโรงเรียนก็จะให้ทุกรายวิชาได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเชิงบูรณาการ

ฝ่ายภาษาจีนโรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ ก็ได้ให้ครูจีนได้สืบค้นข้อมูลและจัดนิทรรศการ จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับวันแม่ ซึ่งได้ข้อมูลว่าภาษาและวัฒนธรรมจีนก็มีการร้องเพลง แม่เช่นกัน ชื่อเพลง มาม่าฮ่าว จากการดูในเว็บไซท์ต่างๆ ก็มีการร้องเพลง ทั้ง เดี่ยว คู่ หมู่ และคาราโอเกะ มีภาพน่ารักๆ และมี เพลงแบบเอ็มพี3 ให้ดาวโหลด

เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้สะดวกในการสืบค้น และเข้าใจเกี่ยวกับเพลงมาม่าฮ่าว ทางโรงเรียนจึงได้นำเนื้อเพลง และต่อลิ้งค์ ยูทูบมาให้ดูดังนี้

เนื้อเพลง

世上只有妈妈好。 有妈的孩子像个宝。 投进了妈妈的怀抱。 幸福享不了。 世上只有妈妈好。 有妈的孩子像个宝。 投进了妈妈的怀抱。 幸福享不了。 没有妈妈最苦恼。 没妈的孩子像根草。 离开妈妈的怀抱。 幸福哪里找。 没有妈妈最苦恼。 没妈的孩子像根草。 离开妈妈的怀抱。 幸福哪里找 Shìshàng zhǐyǒu māmā hǎo. Yǒu mā de háizi xiàng gè bǎo. Tóu jìnle māmā de huáibào. Xìngfú xiǎng bùliǎo. Shìshàng zhǐyǒu māmā hǎo. Yǒu mā de háizi xiàng gè bǎo. Tóu jìnle māmā de huáibào. Xìngfú xiǎng bùliǎo. Méiyǒu māmā zuì kǔnǎo. Méi mā de háizi xiàng gēn cǎo. Líkāi māmā de huáibào. Xìngfú nǎlǐ zhǎo. Méiyǒu māmā zuì kǔnǎo. Méi mā de háizi xiàng gēn cǎo. Líkāi māmā de huáibào. Xìngfú nǎlǐ zhǎo.

คำแปลและความหมาย

ในโลกนี้มีแม่ดีที่สุด
แม่คือสมบัติอันมีค่าที่สุดของลูก
มีความอบอุ่นเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของแม่
เป็นความสุขที่หาที่เปรียบไม่ได้
ในโลกนี้มีแม่ดีที่สุด
แม่คือสมบัติอันมีค่าที่สุดของลูก
มีความอบอุ่นเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของแม่
เป็นความสุขที่หาที่เปรียบไม่ได้
หากไม่มีแม่ย่อมลำบากที่สุด
แม่ไม่ต้องการให้ลูกลำบาก
ไม่ต้องการให้ออกจากอ้อมกอดของแม่
อยากให้ลูกมีแต่ความสุข
และลูกก็อยากให้แม่มีความสุขที่สุด
แม่ไม่ต้องการให้ลูกลำบาก
ไม่ต้องการให้ออกจากอ้อมกอดของแม่
อยากให้ลูกมีแต่ความสุข

ลิ้งค์เกี่ยวกับ เสียงเพลง เอ็มพี 3 มาม่าฮ่าว

ลิ้งค์เกี่ยวกับ ภาพและเสียง มาม่าฮ่าว

ไป๋ ฟาง หลี่


เรื่องเล่าดีๆ มีสาระ เสริมสร้างคุณธรรม เป็นจดหมายเวียน
ที่ควรนำมาเล่าสู่กันฟัง เสริมสร้างสังคมที่อบอุ่น

“นรชาติ วางวาย มลาย สิ้นทั้ง อินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี
ประดับ ไว้ในโลกา

บท กวีบทนี้ดู เหมือนจะใช้ได้ กับคนดีทุก คนเสมอ โดยเฉพาะหากความดีของบุคคลผู้นั้น ได้สร้าง ประโยชน์ที่ ยิ่งใหญ่ให้กับ มหาชนด้วยแล้ว ชื่อของเขาก็ มักจะถูกจารึก ไว้และได้รับ การกล่าวถึงไป อีกนานแสนนาน แม้ว่าเจ้าตัวจะล่วงลับไปนานแล้วก็ตาม เช่นเดียวกับคน ดีที่ทำ ประโยชน์ยิ่ง ใหญ่เพื่อสังคม ที่นำเรื่องราว มาเล่าสู่กัน ฟังในวันนี้ ปฏิเสธ ไม่ได้เลยว่า ถ้าหากใครได้อ่านได้รับรู้เรื่องราวของเขาก็คงจะชื่นชมนับถือ และจดจำความดี ของเขาขึ้นใจ ไม่ต่างกัน

และ เรื่องราวดี ๆ ที่นำมาฝากกัน ในวันนี้ เป็นเรื่องราวของคุณปู่ชาวจีนนามว่า ไป่ ฟาง ลี่ จากเมืองเทียนจิน ผู้ลำบากตราก ตรำถีบสามล้อ เก็บเงินกว่า 1.7 ล้าน บาท แล้วบริจาคให้กับเด็กยากจนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ให้ได้มีโอกาส เล่าเรียนเป็น อนาคตของชาติ แต่กลับกันตัวคุณปู่เองกลับใช้ชีวิตอย่างสมถะ และมีชีวิต อย่างพอเพียงใน กระท่อมเล็ก ๆ ของตัวเอง

โดย คุณปู่ ไป่ ฟาง ลี่ อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในกระท่อมเล็ก ๆ ในเมืองเทียนจิน และใช้ชีวิต ด้วยรอยยิ้มมา ทั้งชีวิต แม้ว่าชีวิตวัยเด็กของคุณปู่จะไม่ได้รับการศึกษาเหมือนกับใครหลาย ๆ คน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณปู่คิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นแต่อย่างใด คุณปู่เลือกที่ จะมีชีวิตอยู่ แบบพอเพียงแต่ ก็มีความสุขไป กับสิ่งรอบข้าง และดูเหมือนว่า ชีวิตของคุณปู่ จะมีความ สุขมากกว่าคน ที่มีพร้อม ทุกอย่างหลาย ๆ คนบนโลกเสีย ด้วย

ใน แต่ละวัน คุณปู่จะปั่นสามล้อคู่ใจออกไปคอยรับส่งผู้โดยสารตั้งแต่ 6 โมง เช้า และกลับบ้านไม่ต่ำกว่า 2 ทุ่ม ทุกวัน ซึ่งตั้งแต่เช้ายันค่ำ ชีวิตของคุณปู่ จะวนเวียนอยู่ กับการรับผู้ โดยสารจากที่ หนึ่ง แล้วพาไปส่งที่ปลายทางโดยปลอดภัย ก่อนจะรอรับผู้ โดยสารรายใหม่ อีกครั้ง และตลอดทั้งวันที่คุณปู่ตระเวนรับส่งผู้โดยสารนั้น แม้จะเหนื่อย แค่ไหน แต่รอยยิ้มของคุณปู่ก็ไม่เคยเลือนหายไปจากใบหน้า ราวกับว่าสิ่ง ที่ทำอยู่ตรง หน้าคือความสุข ที่สุดในชีวิต ของคุณปู่เลยที เดียว ยิ่งไปกว่านั้น คุณปู่ไม่เคย เกี่ยงเรื่อง ค่าโดยสาร ไม่เคยตั้งราคาค่าโดยสารเลยสักครั้ง แต่จะให้ผู้ โดยสารจ่ายค่า โดยสารตามที่ เห็นสมควร และคุณปู่ก็ยิ้มรับมันไม่ว่ามันจะคุ้มค่าเหนื่อยหรือไม่ก็ตาม

ส่วน เงินค่าโดยสาร ที่เก็บได้ใน แต่ละวันนั้น คุณปู่ก็เก็บสะสมมาเรื่อย ๆ และไม่เคยอยากได้ อยากมีอะไร เพิ่มเติม คุณปู่ยังคงอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ และประทังชีวิตด้วยอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะทำให้อิ่มได้ทุกมื้อเท่านั้น

จน เมื่อปี พ.ศ. 2529 ขณะ ที่คุณปู่มี อายุได้ 74 ปี คุณปู่ได้ก็พบเจอกับเรื่องราวสะเทือนใจ ที่ได้เปลี่ยน วิถีชีวิตของ คุณปู่ให้ เปลี่ยนไปอย่าง สิ้นเชิงหลัง จากนั้น นั่นคือ วัน หนึ่งขณะที่คุณ ปู่กำลังจอดสาม ล้อพักหลังจาก ส่งผู้โดยสาร เสร็จแล้ว คุณปู่ได้มองเห็นเด็กชายวัย 6 ขวบ คนหนึ่ง กำลังช่วยหญิงสาวคนหนึ่งถือของพะรุงพะรังที่ซื้อมาจากตลาด ซึ่งมันดูหนัก มากสำหรับเด็ก ชายตัวเล็ก ๆ คนนั้น แต่เขาก็ช่วยหญิงสาวถือของไปจนถึงปลายทางได้ และหญิงสาวก็ ได้ให้ค่าตอบ แทนจำนวนหนึ่ง แก่เด็กชายคน นั้นไป ซึ่งหลังจากที่เด็กชายได้รับเงินค่าตอบแทน เขาก็มองขึ้นไป บนฟ้าด้วยใบ หน้าที่เปี่ยม ไปด้วยรอยยิ้ม ราวจะขอบคุณพระ เจ้าสำหรับเงิน ที่ได้รับมาใน มือ ก่อนที่จะเก็บมันลงในกระเป๋าแล้วไปรับจ้างถือของให้คนอื่น ๆ และทุกครั้งที่ได้รับเงิน เขาก็จะมองไปบน ฟ้าด้วยรอยยิ้ม อย่างนี้ซ้ำ แล้วซ้ำเล่า

หลัง จากนั้นไม่นาน คุณปู่กลับเห็น เด็กชายคนดัง กล่าวไปคุ้ยขยะ เพื่อที่จะค้น หาอะไรบางอย่าง และในที่สุด เด็กชายก็หยิบขนมปังสกปรกชิ้นหนึ่งขึ้นมา แสดงท่าทีดีใจ ก่อนที่จะปัด สิ่งสกปรกออกไป จากขนมปังชิ้น นั้นแล้วกิน เข้าไปอย่างมี ความสุข ราวกับขนมปังชิ้นนั้นเป็นของขวัญจากสวรรค์ คุณปู่รู้สึก สะเทือนใจกับ ภาพที่เห็นเป็น อย่างมาก จึงเข้าไปชวนเด็กชายคนดังกล่าวมานั่งทานมื้อเที่ยงด้วยกัน แล้วถามเด็กชาย คนดังกล่าวว่า ทำไม จึงเอาเงินที่ ได้จากการรับ จ้างถือของไป ซื้อข้าวกินให้ อิ่ม ซึ่งคำตอบที่ได้นั้น ก็ทำให้คุณปู่ ถึงกับอึ้ง เมื่อเด็กชายได้บอกกับคุณปู่ว่า ผมจะ เอาเงินไปซื้อ อาหารให้กับ น้อง ๆ ของผมก่อน อธิบายต่อไปว่า พ่อแม่ของเขามี อาชีพคุ้ยขยะไป ขายประทังชีวิต แต่แล้ววัน หนึ่งพ่อแม่ของ เขาก็หายตัวไป และเขาก็ไม่ได้ พบกับพ่อแม่อีก เลย ชีวิตของเขาจึงเหลือเพียงน้องสาว 2 คน เท่านั้น

หลัง จากได้รับรู้ เรื่องราวสุด สะเทือนใจของ เด็กชายแล้ว คุณปู่ก็ได้ขอให้เด็กชายพาไปหาน้องสาวทั้งสองคน ซึ่งทันทีที่ คุณปู่ไปถึง ก็รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังร้องไห้ออกมา เมื่อภาพที่ เห็นตรงหน้าคือ เด็กหญิงวัย 4 และ 5 ขวบ ที่มีเนื้อตัว สกปรกและผ่าย ผอม ขณะที่เพื่อนบ้านก็ไม่มีใครสนใจเด็กทั้ง 3 คน เลย

จาก นั้น คุณปู่จึงได้พาเด็กทั้งสามไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมืองเทียนจิน และบริจาคเงิน ทั้งหมดที่เขา เก็บสะสมมาตลอด ชีวิตให้กับ เด็กกำพร้าที่ นี่ เพื่อเป็นค่าอาหาร และทุนการศึกษา และตั้งแต่นั้น มา คุณปู่ก็เริ่มทำงานหนักขึ้น เพื่อหาเงิน มาบริจาคให้กับ สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า ซึ่งถึงแม้จะต้องเหนื่อยมากขึ้น แต่มันก็คุ้ม ค่าเมื่อเงิน ที่ได้มาก็มี จำนวนมากขึ้น เช่นกัน โดยเงิน ทั้งหมดที่คุณ ปู่หามาได้หลัง จากนั้น คุณปู่จะเจียดไว้นิดหน่อยสำหรับเป็นค่าอาหารในแต่ละวัน นั่นคือ ขนมปัง 2 ชิ้น สำหรับมือ เที่ยง และเนื้อกับไข่สำหรับมื้อเย็น นอกนั้นคุณปู่ จะบริจาคให้กับ สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้าทั้งหมด

คุณ ปู่มีความสุข มากกับการ ทุ่มเททั้งหมด ของชีวิตเพื่อ ช่วยเหลือเด็ก กำพร้า ขณะที่ตัวเองอยู่อย่างสมถะ ที่อาจจะยากจน ในสายตาของใคร ๆ แต่สำหรับคุณปู่แล้ว คุณปู่กลับ รู้สึกว่าตัว เองร่ำรวยแล้ว ที่มีบ้านให้ อาศัย มีอาหารให้กินทุกมื้อ และมีเสื้อผ้า ใส่ เพียงเท่านี้ คุณปู่ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดียิ่งกว่าใคร ๆ และถึงแม้ว่าตัวเองจะทำงานตลอด 365 วัน ไม่เคยหยุด ไม่ว่าอากาศจะหนาว จะร้อน หรือหิมะจะตกอย่างไร แต่ถ้ามีใครถาม คุณปู่ว่าทำไม ถึงต้องทำเพื่อ เด็ก ๆ ขนาดนี้ คุณปู่จะบอก เสมอว่า ” ไม่ เป็นไรหรอกที่ จะลำบาก ขอแค่ให้เด็กยากจนได้มีข้าวกิน และได้รับโอกาส ทางการศึกษา เหมือนเด็กคน อื่น ๆ เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว”

สำหรับ การบริจาคเงิน ของคุณปู่ที่ เริ่มต้นมา ตั้งแต่ปี 2529 ซึ่ง มียอดรวมกว่า 1.7 ล้าน บาทนั้น คุณปู่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะร้องขอสิ่งตอบแทนใด ๆ จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และคุณปู่ก็ไม่ รู้เลยว่าเด็ก คนไหนได้รับ ประโยชน์จาก เงินของคุณปู่ บ้าง คุณปู่เฝ้าแต่ตรากตรำหาเงินมาให้เด็กกำพร้า

จนเมื่อปี พ.ศ. 2545 เ มื่อ คุณปู่อายุได้ 90 ปี คุณปู่ก็ได้บริจาคเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตจำนวน 2,500 บาท ให้กับโรงเรียน สอนเด็กกำพร้า และบอกว่า ” ฉัน แก่เกินไปและ อ่อนแอเกินกว่า จะปั่นสามล้อ ได้เหมือนเดิม แล้ว ไม่สามารถบริจาคอะไรให้กับเด็ก ๆ ได้อีกแล้ว และนี่คงเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ฉันจะบริจาคให้กับทางโรงเรียน” และ นั่นคือคำพูด สุดท้ายของคุณ ปู่ ก่อน ที่คุณปู่จะ เสียชีวิตลง อย่างสงบเมื่อ ปี พ.ศ. 2548 ใน กระท่อมเล็ก ๆ อันแสนสุขของ ตัวเอง และงานศพของคุณปู่ก็เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจของเด็ก ๆ และครูอาจารย์จากโรงเรียนสอนเด็กกำพร้าที่มีร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น

ณ วันนี้ แม้ว่า คุณปู่ไป่ ฟาง ลี่ ได้ล่วงลับไปนานกว่า 5 ปี แล้ว แต่ดูเหมือนว่าชื่อของคุณปู่ ยังคงถูกนำไป พูดถึงและบอก ต่อนับครั้งไม่ ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมืองเทียนจิน รูปคุณปู่ถูกนำ ไปประดับไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้เด็ก ๆ ได้รำลึกถึงผู้มีพระคุณ ที่แม้จะไม่ได้ หวังให้ใคร ยกย่อง และไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ แต่ความดีของคุณปู่ก็คงไม่อาจจะถูกลบลืมไปได้ และมันก็จะยัง คงดำรงอยู่ อย่างนั้นไปอีก นาน

จาก forward mail


ภาษาจีนเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการศึกษาไทยในปี 2554 หลายโรงเรียนเตรียมความพร้อมของโรงเรียน เพราะให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
โรงเรียนอนุบาลน้ำเพชร อำเภอยางชุมน้อย เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่เจ้าของโรงเรียน(ที่ปรึกษาสูงสุด)นายวิทยา ทองอินทร์  ได้ติดต่อประสานงานกับการศึกษาเอกชน และประสานงานไปที่ฝ่ายส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ภาษาจีน อย่างฮั่นปั้น

แล้ววันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ทางฮั้นปั้น ได้ส่งตัวนางสาว วู่ ฉิงเหยียนมาให้ ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและสอบถามเจ้าตัวแล้ว เป็นคนเก่งระดับแนวหน้าของชั้นเรียนและระดับแนวหน้าของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด  จึงได้รับการคัดกรองจากฮั้นปั้นมาทำการสอนที่ประเทศไทย

และในวันที่ 25 พฤษภาคม 2554 ได้ประสานงานมาที่โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ  ซึ่งจัดการศึกษาภาษาจีนมาก่อน ช่วยเป็นพี่เลี้ยง ให้คำแน่ะนำ เกี่ยวกับการดูแลครูจีน  และการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้เป็นไปตามหลักสูตร และเจตนาของความร่วมมือไทย จีน  โดยมีความคาดหวังว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคน รองรับการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มอาเซียน ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันและพร้อมเปิดเสรีทางการค้า และความร่วมมือหลายๆประการ

โดยส่วนใหญ่ ต้องมีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างกัน แต่ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชีย  ได้มีการติดต่อค้าขายกันมานานแล้วโดยใช้ภาษาจีนในการสื่อสารค้าขาย  ตลอดทั้งประเทศจีนได้ทำการเผยแพร่ภาษาจีน โดยให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียเข้าไปเรียนในประเทศจีนมานาน ทำให้เป็นภาษาหลักในการสื่อสาร

โรงเรียนอนุบาลน้ำเพชร ขอขอบพระคุณ ผู้อำนวยการทิวา  รุ้งแก้วที่ให้ความอนุเคราะห์ศึกษาดูงานตลอดทั้งแน่ะนำ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โรงเรียนอนุบาลน้ำเพชร  จะเป็นเพชร เม็ดงาม สร้างคน เพื่อให้คนสร้างชาติ และประเทศชาติของเราก็จะเจริญรุ่งเรืองสืบไป